แม้จะยังไม่มีกำหนดชัดแน่นอนว่าการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปวันใด แต่แน่นอนว่าเราเริ่มเข้าใกล้สู่โหมดการเลือกตั้งขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราจะเห็นถึงพลังของโลกโซเชียล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟสบุคจากเหตุการณ์ที่โดนัลด์ ทรัมป์ใช้เม็ดเงินโฆษณาออนไลน์เอาชนะฮิลารี่ คลินตันอย่างหักปากกาเซียน ว่าทรงพลังเพียงใด
แม้เป็นที่ค่อนขอดและส่งผลให้มีการสืบสวน เนื่องจากการได้มาของข้อมูล หรือ Data นั้น เป็นการได้มา และใช้อย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นที่มาของการสืบสวน Cambridge Analytica ซึ่งส่งผลให้เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งโลกโซเชียลอย่าง มาร์ค ซัคเคอเบิร์ก โดนหางเลขไปเต็มๆ ทั้งการไปให้การต่อรัฐสภา ราคาหุ้นตก หรือกระทั่งการที่เฟสบุคโดนบังคับใช้กฎหมายต่อการเข้าถึงประชาชนของ EU อย่าง GDPR หากเราตัดส่วนของการได้มาของข้อมูลที่ไม่ถูกต้องออกไปนั้น การโฆษณาหาเสียงผ่านทางโลกออนไลน์ จริงๆแล้วทรงพลังมาก
“หากเราตัดส่วนของการได้มาของข้อมูลที่ไม่ถูกต้องออกไปนั้น การโฆษณาหาเสียงผ่านทางโลกออนไลน์ จริงๆแล้วทรงพลังมาก”
เหตุผลในสาเหตุหลักๆที่ทำให้สื่อออนไลน์ทรงพลังคือ (1) การเลือกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และ (2) การ retarget เป้าหมายให้เห็นโฆษณาซ้ำๆ เหมือนผีหลอกนั่นเอง
การเลือกกลุ่มเป้าหมายและการ Retarget

จากรูปเฟสบุคสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ 3 ประเภทได้แก่
1) การเลือกผู้ใช้งานของเฟสบุค (Core Audience) โดยผู้โฆษณาสามารถระบุอายุ เพศ ที่อยู่ รวมถึงความสนใจได้,
2) ยิงโฆษณาหากลุ่มที่เรามีฐานข้อมูล (Custom Audience) คือการที่ผู้ซื้อสามารถยิงโฆษณาไปหากลุ่มคนเดิมๆ ซ้ำๆได้ เหมือนผีหลอก ซึ่งอาจเป็นเหมือนการล้างสมองนั่นเอง
3) กลุ่มคนที่คล้ายกัน (Lookalike) คือการให้เฟสบุคหากลุ่มคนที่มีพฤติกรรมคล้ายๆกับกลุ่มที่เรามีข้อมูล ซึ่งน่าจะมีความสนใจคล้ายๆกัน และมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมเหมือนกับกลุ่มที่เรามีข้อมูล
ซึ่งกลุ่มเป้าหมายต่างๆของเฟสบุค จะเห็นว่าค่อนข้างครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย เพราะคนไทยเล่นเฟสบุคติดอันดับโลก!! เรียกว่าได้ ใครไม่มีเฟสบุค ต้องถามเลยว่า ใช้ชีวิตอยู่รอดมาได้ยังไง โดยสถิติจำนวนคนไทยเล่นเฟสบุคถึง 52 ล้านคน ซึ่งเป็นยอดผู้ใช้อันดับ 1 ในโลกออนไลน์
คนไทยเล่นเฟสบุคถึง 52 ล้านคน
ซึ่งด้วยพลังของเฟสบุคนี่เอง ส่งผลให้พี่มาร์ค ซักเคอเบิร์ก ได้มีมาตราการพัฒนาเฟสบุค เพื่อป้องกันการนำไปใช้ที่ผิด ไม่ว่าจะเป็น การใช้ account ปลอม, การให้ข้อมูลผิดๆที่ใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม หรือก่อให้เกิดความเกลียดชัง โดยเริ่มพัฒนาในปลายปี 2018 ที่ผ่านมาเพื่อรองรับการเลือกตั้งสำคัญๆในโลก
ท่านสามารถติดตามข้อมูลดีๆจาก AVM เพิ่มเติมได้ที่
- Facebook: http://fb.com/oneavm
- Twitter: https://twitter.com/oneavm_tweet
- Line: http://line.me/ti/p/%40uwu1434e